83Line CinTeuk - Please...จะรักฉันได้ไหม? - 83Line CinTeuk - Please...จะรักฉันได้ไหม? นิยาย 83Line CinTeuk - Please...จะรักฉันได้ไหม? : Dek-D.com - Writer

    83Line CinTeuk - Please...จะรักฉันได้ไหม?

    จองซู :ฉันจะคอยมองฮีชอลอยู่ข้างหลังเสมอ ได้แค่นี้ก็ดีแล้ว ฮีชอล :เพราะจองซูเป็นแบบนี้ จะให้เขาคาดสายตาไปได้ยังไง

    ผู้เข้าชมรวม

    829

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    829

    ความคิดเห็น


    14

    คนติดตาม


    14
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  10 มิ.ย. 55 / 10:28 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      SF 83line CinTeuk Please…จะรักฉันได้ไหม?

      By  ZeHanTeuk

      เรื่องนี้เป็นซินทึกเรื่องแรก ที่ใช้เวลาแต่น้อยที่สุด จู่ๆก็คิดเรื่องนี้ขึ้นมาได้เฉยเลย

      ไม่รู้คนอ่านจะสนุกรึเปล่า 5555





       

      สี่เท้าเล็กๆเดินย่ำไปตามทางเดินดินที่ปกคลุมไปด้วยใบไม้แห้ง คนนึงเดินถือตาข่ายจับแมลงนำหน้า อีกคนนึงถือตะกร้าใส่แมลงใบใหญ่ตามหลัง

      “นั่นไง! เจอแล้ว ตามมาเร็วๆจองซู” เด็กชายตาโตวิ่งกวัดแกว่งตาข่ายจับแมลงกลางอากาศ ส่วนเด็กอีกคนหน้าตาน่ารักละม้ายคล้ายเด็กผู้หญิงพยายามวิ่งตามให้ทัน

      “โอ๊ย!! ฮีชอลรอก่อน” เพราะพยายามจะวิ่งตามให้ทันเลยต้องสะดุดหกล้ม

      “อ๊ะ! ไม่นะ กลับมา...จองซูรีบจับมันเร็ว!” แมลงบินออกจากตะกร้าหาอิสระอีกครั้ง จองซูไล่จับแมลงที่หลุดออกมาตามคำสั่ง แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถจับกลับมาได้สักตัว

      “เพราะนายคนเดียว แมลงบินหนีไปหมดเลย!

      “จองซูขอโทษ”

      “ฉันโป้งนายแล้ว ฉันจะไม่คุยกับนายสามวันเลย” ใบหน้าน่ารักมองเด็กชายตาโตเดินกระแทกเท้าห่างออกไป ก่อนจะใช้มือเล็กๆเปรอะเปื้อนฝุ่นดินเช็ดน้ำตาที่แก้มตน

      “เดินเร็วๆซิ เดี๋ยวก็มืดซะก่อนหรอก ชักช้า!” ฮีชอลหันกลับมาตวาดอีกครั้ง

      “จองซูเจ็บแผล ฮีชอลเดินช้าๆหน่อยซิ” รอยแผลถลอกแสบจึงทำให้เด็กน้อยเดินกะเผลก

      “น่าเบื่อ!” ถึงจะบ่นไปแบบนั้นแต่ก็ยอมเดินช้าๆรอคนข้างหลัง

      ..

      ...                                   

      “เดินเร็วๆซิ เดี๋ยวหอก็ปิดหรอก!” ขายาวก้าวนำหันมาดุคนที่กึ่งเดินกึ่งวิ่งตามหลัง

      “เพราะฮีชอลนั่นแหละ อยากหนีไปเที่ยวเอง ถ้าฉันไม่ออกมาตามฮีชอลจะกลับยังไง?”

      “เดี๋ยวนี้หัดเถียงฉันแล้วหรอจองซู!

      “ไม่ได้เถียงซะหน่อย แค่พูดความจริง”

      “ถ้าแค่นี้มันทำให้นายลำบากลำบนมากก็ไม่ต้องทำหรอกนะ! นายกลับเข้าหอไปเลย ฉันไม่เข้าไปหรอก!” นัยน์ตากลมโตฉายแววขุ่นเคือง

      “ฮีชอลโกรธหรอ?”

      “ใช่!

      “ฉันขอโทษ...รีบกลับเข้าหอเถอะนะจะเที่ยงคืนแล้ว” ฮีชอลมองดวงหน้าหวานดวงหางตาก่อนจะเดินเข้าหอพักไปอย่างเงียบๆ และก็เหมือนทุกครั้งที่จองซูจะค่อยเดินตามเขาเสมอ

      ตั้งแต่เด็กจนโตจองซูจะเห็นแค่เพียงแผ่นหลังกว้างๆของอีกคนเท่านั้น ไม่เคยได้เดินเคียงข้าง ไม่เคยได้รับรอยยิ้มอบอุ่น ไม่เคยได้รับคำพูดอ่อนโยนจากกลีบปากอิ่มนั้น...แต่ก็นั้นแหละ ฮีชอลเป็นแบบนั้นมาแต่ไหนแต่ไร เขาไม่โกรธหรอก ไม่น้อยใจด้วยที่ฮีชอลปฏิบัติกับคนอื่นตรงข้ามกับเขาทุกอย่าง เพราะฮีชอลไม่เคยทิ้งเขาให้ต้องอยู่คนเดียวเลยสักครั้ง

      ขายาวก้าวเดินนำเหมือนทุกครั้ง และก็หันกลับไปมองคนข้างหลังอย่างเช่นทุกครั้งเหมือนกัน จนกลายเป็นเรื่องที่ทำจนชินเสียแล้ว ไม่ว่าจะเมื่อไหร่ข้างหลังเขาจะต้องมีร่างบางเดินตามเสมอ จองซูไม่เคยตามเขาทันเลยสักครั้ง ต่อให้เขาเดินช้าขนาดไหน จองซูก็ยังอยู่ข้างหลังเขาเหมือนเดิม จนมันน่าหงุดหงิดอดไม่ได้ที่จะตวาดดุ ถึงเขาจะทำแบบนั้น จองซูก็ไม่เคยชักสีหน้าโกรธหรือโมโหใส่เขาเลย มีแต่เขาที่พาลหงุดหงิดไปคนเดียวและทุกครั้งที่เขาหงุดหงิดใส่ร่างบาง จองซูกลับเป็นฝ่ายเอ่ยคำขอโทษออกมาทั้งทีตนไม่มีความผิดสักนิด เพราะจองซูเป็นแบบนี้จะให้เขาคาดสายตาไปได้อย่างไร

      “ฮีชอลตื่น กับข้าวเสร็จแล้วนะไปกินข้าวกันเถอะ”

      “หิวก็ไปกินก่อนเลยไป!!” พูดทั้งที่ยังไม่ลืมตา พลิกตัวหนีไปอีกทาง

      “ถ้าไม่รีบลุกเดี๋ยวจะไปเรียนสายนะ”

      “นายก็ไปก่อนเลยซิ เดี๋ยวฉันก็ไปของฉันเองแหละ อย่ามากวนได้ไหม รำคาญ!!!

      “ก็ได้ ฉันวางข้าวไว้บนโต๊ะนะ” ไม่มีเสียตอบจากคนบนเตียงนอกจากเสียงลมหายใจเข้าออก...หลับไปอีกแล้วซินะ

      “จองซู วันนี้ลงมาแต่เช้าเลย” ชายหนุ่มร่างสูง หุ่นหนาไปด้วยมัดกล้ามสมชายวิ่งตรงเข้ามาหาเมื่อเห็นร่างบางลงมาจากหอพัก

      “สวัสดีแทคยอน วันนี้ตื่นเช้าจัง”

      “ก็รีบตื่นให้ทันจองซูไง จะได้เดินไปเรียนด้วยกัน...แล้ววันนี้ลงมาคนเดียวหรอ?” แทคยอนกวาดสายตามองรอบๆหาใครอีกคนที่ไม่ค่อยจะชอบขี้หน้า

      “ฮีชอลยังไม่ตื่น ฉันเลยลงมาก่อน”

      “หรอ ดีจัง”

      “จองซู!!” เสียงตวาดดุคุ้นหูดังเรียกความสนใจจากทั้งสอง

      “ฮีชอลไหนบอกจะนอนต่อไง?”

      “ตอนนี้ตื่นแล้วเห็นไหมล่ะ!” ฮีชอลกระแทกเสียงใส่แล้วดึงร่างบางให้มายืนข้างตน “มานี่!

      “หมาหวงก้าง!!” แทคยอนเอ่ยด่าเบาๆ

      “ไม่ใช่เรื่องของแก!!” ฮีชอลมองร่างสูงอย่างกราดเกรียว “ไปเร็วจองซู!

      “เจอกันที่ห้องนะแทคยอน”

      “จองซูเร็วๆเข้าซิ ไม่ต้องไปคุยกับมัน!!” ร่างโปร่งหันมาตวาด ร่างบางรีบวิ่งตามไป เป็นภาพที่คุ้นเคยและเห็นจนชินเสียแล้ว

      ..

      ...

       

      “เปิดประตูหน่อยซิ!!!” เสียงแหลมตะโกนพร้อมรัวทุบประตูห้อง และแทบจะทันทีที่คนในห้องได้ยินเสียงเรียกจึงรีบเปิดอย่างไม่รีรอ

      กลิ่นฉุดจัดของแอลกอฮอล์ลอยฟุ้งจนต้องหันหน้าหนี จองซูรีบเข้าไปประคองร่างโปร่งเข้ามานั่งบนโซฟาตัวยาว

      “ขอน้ำกินหน่อยสิ” ร่างบางพยักหน้ารับ

      “ฮีชอลเข้าหอมาได้ยังไง? ประตูหอปิดไปตั้งนานแล้ว”

      “ให้ยัยยุนอาไปเอากุญแจจากยามมาน่ะสิ ยามที่นี่ซื่อบื้อจะตายเห็นผู้หญิงเป็นไม่ได้ ชิย์!

      “เดี๋ยวฉันเช็ดตัวให้นะ”

      ผ้าเปียกไล้เช็ดไปตามผิวหน้าเบาๆ ฮีชอลหลับไปเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ กระดุมเสื้อเชิ๊ตนักเรียนค่อยๆถูกปลดออกทีละเม็ด ผิวขาวแต้มรอยรักสีแดงไว้เต็มแผงอก ขอบตาสวยเริ่มลื่นน้ำทันทีที่เห็น

      ทุกครั้งที่ฮีชอลเมาและกลับดึก ร่างโปร่งจะมีรอยพวกนี้กลับมาด้วยทุกครั้ง เขาเห็นมันจนชินตาแล้ว แต่...ที่ไม่ชินคือหัวใจของเขา ไม่เคยทำใจให้ชินกับเรื่องแบบนี้ได้เลย ฮีชอลไม่รู้ว่าเขาเจ็บปวดนะ แบบนี้มันเจ็บมากๆ

      ปากบางกัดเม้มกลั้นเสียงสะอื้นให้เบาที่สุด ปล่อยเพียงน้ำตาให้มันไหลลงต่อไปเรื่อยๆอย่างห้ามไม่ได้ แต่...

      “ร้องไห้ทำไม?!” จู่ๆฮีชอลก็ลืมตาตื่นขึ้นมาจนร่างบางตกใจรีบลุกถอยหนีทันที เพื่อเลี่ยงการตอบคำถาม

      “ฉันถามว่าร้องไห้ทำไม?!!” มือหนาฉุดต้นแขนเล็กดึงกลับมา

      “ปะ...เปล่า ไม่ได้ร้อง”

      “ก็เห็นอยู่ยังจะโกหกอีก! อย่าหนีหน้าฉันจองซู ตอบคำถามฉันมาเดี๋ยวนี้!” ดวงตาสวยหลบนัยน์ตากลมแต่กลับเผลอมองผิวเนื้อแต้มรอยแดงนั้นจนฮีชอลทันสังเกต

      “ไม่ใช่เพราะรอยพวกนี้ใช่ไหม!

      “...”

      “ปาร์ค จองซู!!” เสียงแหลมตวาดดุคนเงียบไหล่ห่อจนตัวสั่น

      “ขอโทษ”

      “หยุดพูดคำบ้านั่นซะที ฉันรำคาญ!!...นายไม่ได้คิดแบบนั้นกับฉันใช่ไหม!” แรงบีบที่ต้นแขนแรงขึ้นตามอารมณ์

      “ฮึก...ฮึก รักฮีชอล...ฉัน ฮึก! รักฮีชอล”

       

      พลั่ก!!

      ร่างบางล้มลงกระแทกกับพื้นเต็มแรงด้วยแรงผลักของร่างโปร่ง ฮีชอลมองร่างบางด้วยสายตารังเกียจ

      “ฉันเป็นเพื่อนนายนะ อย่าให้ฉันได้ยินมันอีกเพราะฉันรังเกียจ!!” พูดเสร็จก็เดินเข้าห้องพร้อมกระแทกประตูเสียงดัง

      “ฮึก...ฮือๆ ขอโทษ”

       

      ขอโทษที่จองซูรักฮีชอล จองซูรู้ว่าฮีชอลเกลียดเรื่องแบบนี้

      ขอโทษที่จองซูทำให้ฮีชอลโกรธ

      ขอโทษที่จองซูทำตัวน่ารังเกียจ แต่...จองซูเลิกรักฮีชอลไม่ได้ มันทำไม่ได้จริงๆ

       

      ..

       

      เสียงเจี๊ยวจ๊าวในห้องเรียนก่อนพักกลางวัน เสียงหัวเราะแหลมของร่างโปร่งดังอยู่ในกลุ่มเพื่อนหลังห้อง

      “เฮ้ย! ไอ้ฮีชอล คนเมื่อวานเป็นไงวะ?” เสียงห้าวของเพื่อนคนนึงในกลุ่มเอ่ยถาม

      “เด็ดซิวะ รัดกูถึงใจเลย”

      “เฮ้ย! นางฟ้ามึงมาวะ” ฮีชอลหันไปมองบุคคลที่สามที่ถูกเอ่ยถึงก่อนหันกลับมาปั้นสีหน้าเรียบนิ่ง

      “ฮีชอลหายไปไหนมาตั้งเกือบอาทิตย์ ฉันโทรหา ฮีชอลก็ไม่รับโทรศัพท์”

      “เรื่องของฉัน ไม่ใช่เรื่องของนาย”

      “แต่ฉันเป็นห่วงฮีชอลนะ”

      “เอากองไว้ตรงนั้น แล้วก็ออกไปห่างๆฉันด้วย!!” ถ้อยคำหยาบคายนั้นทำให้คนฟังน้ำตาคลอ รังเกียจจองซูมากขนาดนี้เลยหรอ?

      “ไปเถอะจองซู คนเชี่ยพรรนี้พูดไปก็เท่านั้น!” แทคยอนเดินเข้ามาโอบไหล่ดึงร่างบางให้ออกห่าง

      “ไอ้เชี่ยแทคยอน มึงอยากลองดีกับกูรึไง เรื่องของกูกับจองซู มึงคนนอกไม่ต้องมาสะเออะเสือ ก!!

      “กูจะเสือ กมึงจะทำไมวะ!! ลองแดกตีนกูไหมล่ะ!” แทคยอนสาวเท้าก้าวเข้าไปหวังจะซักใบหน้ากวนๆนั้นสักหมัด แต่ร่างบางแทรกตัวเข้ามาขวาง

      “อย่า...อย่านะ อย่าทำฮีชอล!

      “จองซูถอยไป อย่ามาขวาง”

      “ขอร้องล่ะ อย่าสู้กันนะ” ร่างบางยังยืนกรานเอาตัวเข้ามาขวางไม่ยอมถอย

      “ฉันบอกให้ออกไปห่างๆฉันไง อย่ามายุ่ง!” อีกครั้งที่ฮีชอลผลักไหล่เล็กจนเซ โชคดีครั้งนี้มีแทคยอนรับประคองไว้ทัน

      ร่างกายบางสั่นเพราะกลั่นสะอื้น เขาต้องไม่ร้องไห้ ฮีชอลไม่ชอบให้ร้องไห้ ฮีชอบรำคาญเสียงสะอื้น ฮีชอลจะโกรธ...ห้ามร้องไห้นะจองซู

      ใบหน้าหวานก้มหลบรีบคว้าข้อมือแทคยอนเดินออกจากห้องอย่างรวดเร็ว

      “ทำไม่ต้องไปปกป้องมันด้วย! มันไม่เห็นความสำคัญของจองซูเลยนะ”

      “ไม่ได้...แทคยอนห้ามทำร้ายฮีชอลนะ ฉันขอร้อง”

      “จองซู!” ทันทีที่เห็นดวงหน้าหวานแดงกร่ำ ร่างสูงแทบทำตัวไม่ถูกเป็นห่วงคนตรงหน้าเหลือเกิน

      “แทคยอนรำคาญคนร้องไห้ไหม?”

      “ไม่...ทำไมหรอ?” เมื่อได้ยินคำตอบจากปากชายหนุ่มน้ำตาที่กลั้นไว้ก็ทะลักออกมาพร้อมเสียงสะอื้นหนักๆ วงแขนหนารีบยกขึ้นกอดปลอบ “ฉันชอบจองซูนะ”

       

      ..

       “เฮ้ย!! ทำไมมึงใจร้ายนักวะ พูดไปแบบนั้นไม่สงสารจองซูหรอ?”

      “สงสารทำไม!

      “ปกติพวกมึงตัวติดกันยังกะปลิง แล้วไหงตอนนี้เสือ กผลักไสไล่ส่งแบบนั้นวะ” เพื่อนชายในกลุ่มที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างถามขึ้นอย่างสงสัย

      “จองซูเสร็จมึงแล้วใช่ไหม มึงถึงได้เขี่ยทิ้ง...เป็นไงวะ? ถ้ามึงทิ้งแล้วกูขอนะ”

      “เชี่ยนิ!! พวกมึงหยุดเลยนะ อย่าแม้แต่จะคิดด้วย กูกับจองซูไม่มีอะไรกัน และถ้าพวกมึงแตะต้องจองซูแม้แต่นิดเดียวละก็ พวกมึงโดนตีนกูแน่!!” ฮีชอลลุกขึ้นชี้หน้าอย่างโมโหจัด

      “แม่ ง!! ทำเป็นหวงนะมึง” เสียงห้าวตะโกนไล่หลังร่างโปร่งที่เดินออกจากห้อง

       



      “ไม่ได้...แทคยอนห้ามทำร้ายฮีชอลนะ ฉันขอร้อง” เสียงจองซู? ใช่ นั่นเสียงของจองซู ขายาวสาวเท้าเข้าไปหาตามเสียง

      “แทคยอนรำคาญคนร้องไห้ไหม?” ขายาวหยุดนิ่งเมื่อเห็นร่างบางปล่อยโฮพร้อมวงแขนของอีกคนดึงเข้าไปกอด

      จองซูจำไว้นะ ฉันน่ะรำคาญที่สุดเลย พวกที่ชอบร้องไห้ มันน่ารำคาญงอแงเหมือนเด็กๆฉันไม่ชอบ นายน่ะอย่าร้องไห้ให้ฉันเห็นนะ

       

      “โธ่โว้ย!! เจ้าบ้าจองซู” ทำไมถึงได้รู้สึกหงุดหงิดได้ขนาดนี้นะ ถ้าจองซูจะไปก็ไปสิ จะไปอยู่ไปกอดกับใครก็เชิญ ไม่มีคนมาเดินตามต้อยๆเหมือนเมื่อก่อนน่ะดีแล้วไม่ใช่รึไง คิม ฮีชอล!

       

      เปรี้ยง!!!

      ร่างโปร่งสะดุ้งตื่นขึ้นทันที เสียงฟ้าร้องดังสนั่นจนคนหลับลึกอย่างฮีชอลต้องสะดุ้ง ฮีชอลรีบลุกขึ้นเปิดไฟบนหัวเตียง ไม่เกรงใจเพื่อนร่วมห้องที่ต้องตื่นเพราะแสงไฟแยงตา

      “มีอะไรวะ? เพิ่งจะตีสามมึงจะรีบตื่นทำไมเนี่ย”

      “ข้างนอกฝนตกหนักนี่หว่า” ฮีชอลแง้มผ้าม่านมองด้านนอกพร้อมกับเสียงฟ้าร้องลงมาอีกชุดใหญ่

      “เออ...ชั่งฝนมันสิ มึงกลับมาปิดไฟนอนได้แล้ว!

      “จองซู!” ร่างโปร่งเอ่ยขึ้นเบาๆ ก่อนจะรีบคว้าเสื้อคุมแขนยาววิ่งออกจากห้อง

      ฝนห่าใหญ่ตกลงมาหนักเสียจนร่างโปร่งเปียกแทบจะในทันทีที่วิ่งออกจากคอนโดฯ เวลาดึกขนาดนี้แม้แต่แท็กซี่ก็หายาก ฮีชอลตัดสินใจวิ่งไปหอพัก ระยะทางไม่ไกลเท่าไหร่นัก จะให้รอรถคงรอไม่ไหว

      “ลุง! เปิดประตูให้หน่อย!” มือหนาทุบกระจกเรียกคนเฝ้าหออย่างไม่เกรงใจ

      “พ่อผมเป็นเจ้าของโรงเรียน ถ้าลุงรีบเปิดให้ผม ผมสั่งให้ขึ้นเงินเดือนลุงห้าเท่าเลย!” ไม่ต้องนับหนึ่งถึงสามประตูหอก็เปิดในทันที

      “จองซู!” ประตูห้องเปิดพรวดอย่างไม่กลัวว่ามันจะพัง ฮีชอลวิ่งเข้าห้องนั้นออกห้องนี้ก็ไม่พบคนที่ควรจะอยู่

       

      ปังๆ!!!

      “มีอะไร?!” เสียงทุ้มห้าวถามห้วนๆ เมื่อเห็นว่าคนทุบประตูคือใคร ฮีชอลจ้องหน้าแทคยอนเขม็ง

      “กูมาพาจองซูกลับ ถอยไป!” ร่างโปร่งผลักร่างสูงให้พ้นทาง ถือวิสาสะเดินเข้าห้องกวาดสายตามองหาร่างบาง

      จองซูนั่งขดตัวงออยู่บนเตียง มือทั้งสองยกขึ้นปิดหูร่างกายสั่นสะอื้น ใบหน้าเลอะน้ำตา แววตาฉายแววหวาดกลัวจับใจ ฮีชอลรีบคว้าตัวร่างบางแล้วดึงตามแรงตน

      “ไอ้ฮีชอลปล่อยจองซูซะ!!

      “จองซูเป็นของกูเป็นมาตั้งแต่แรก กูไม่ยกให้มึงหรอก หลีกไป!!” แทคยอนมองร่างบางก้มหน้าเดินตามฮีชอลไปอย่างไม่ขัดขืน

       

      ฮีชอลเหวี่ยงร่างบางลงบนเตียง ดึงข้อมือเล็กทั้งสองข้างให้ร่างบางเข้ามาชิดตน จองซูมองคนตรงหน้าอย่างหวาดๆ ฮีชอลโกรธอีกแล้ว...เขาทำให้ฮีชอลโมโหอีกแล้ว จองซูขอโทษ

      “พอฉันไม่อยู่นายก็วิ่งร่าไปนอนห้องคนอื่นเลยรึไง ห๊ะ!!

      “ไม่ใช่นะ...ฉันไม่เคย ฮึก...ฮือออ ไม่เคยไปนอนกับใครเลย ฉะ ฉัน ฮึก! รอฮีชอลอยู่ที่ห้องตลอด ฮือๆ” จองซูพยายามบิดข้อมือตนออกเพื่อยกขึ้นปิดหู เสียงฟ้าร้องดังสนั่นกลัวจนตัวสั่น

      “แล้วที่ฉันลากนายออกมาเมื่อกี้นี่มันอะไร!

      “ก็...ฮีชอลไม่อยู่ ฮึก..ฮือ ฉันกลัว” จองซูปล่อยโฮออกมาเมื่อเสียงฟ้าผ่าดังรั้น ไหล่เล็กสั่นไม่หยุด รู้แล้วว่าจองซูกลัวเสียงฟ้า ไม่งั้นจะวิ่งกลับมาหาหรอ

      ร่างโปร่งดึงจองซูเขาไปกอดแนบอกเหมือนอย่างที่เคยทำทุกครั้ง...ทุกครั้งที่จองซูกลัว เขาต้องกอดไว้แบบนี้ กอดไว้ให้แน่น ให้รู้ว่าเขายังอยู่ข้างๆ

      “ฉันอยู่นี่ ฉันกลับมาแล้ว ไม่ต้องกลัว” น้ำเสียงอ่อนโยนถูกเอ่ยขึ้นปลอบ ซึ่งน้อยนักที่จะได้ยิน

      “อย่าไปนะ ฮึก อย่าไป”

      “ไม่ไปแล้ว ไม่ไป จะอยู่ที่นี่กับจองซู”

       

      ฝนเริ่มซ่าลงก็เกือบใกล้สว่างฮีชอลนั่งมองคนหลับที่หนุนตักเขาแทนหมอน ร่างโปร่งไล่ข้อนิ้วลูบพวงแก้มเนียนเบาๆ ไม่ได้มองจองซูแบบนี้มานานขนาดไหนแล้วนะ เพิ่งรู้ว่าร่างบางเปลี่ยนไปมาก ไม่ใช่เด็กผู้ชายแก้มยุ้ยคนนั้นอีกแล้ว

      ทั้งที่พยายามไม่สนใจแล้วแท้ๆ ความรู้สึกของจองซูที่ให้เขามันมากเกินเพื่อนจนเขาไม่สามารถรับได้ ทำทุกอย่างให้ร่างบางรู้ว่าเขาเกียจ แต่พอทำไปแล้วในใจกลับเรียกหาคนที่คอยเดินเขาอยู่ข้างหลัง คอยสนับสนุนไม่ว่าเขาจะทำอะไร พอไม่มีร่างบางอยู่ในสายตา พอเห็นว่าจองซูอยู่กับคนอื่นกลับรู้สึกหงุดหงิดเหมือนคนบ้า ฉันปล่อยนายไปไม่ได้จริงๆ ใช่ไหมจองซู?

      ฮีชอลก้มหน้าลงจูบแก้มเนียนเบาๆ พร้อมกดจมูกลงสูดความหอมที่ไม่เคยคิดจะสัมผัส กลิ่นละมุนจากพวกแก้มหยุดเขาให้ยากที่จะละจมูกออก

      “จองซู นายเป็นของฉันนะ”

       

       

      ..

       

      “จองซูเร็วๆซิ ชอบชักช้าอยู่เรื่อยเลย” เสียงตวาดดุดังขึ้นอีกครั้ง ฮีชอลหยุดเดินและหันกลับมามองคนที่กำลังวิ่งตามเขาให้ทัน

      “ฮีชอลเดินต่อไปเลย ฉันจะเดินตามไปเรื่อยๆ” ฮีชอลถอนหายใจออกหนักๆ ไม่ว่าเมื่อไหร่จองซูก็พยายามจะเดินตามเขาอยู่ทุกครั้ง ร่างโปร่งสาวเท้าเข้ามาหาเมื่อเริ่มทนไม่ไหว ที่เห็นจองซูหยุดเดินเพื่อให้เขาเดินนำ มือหนากุมมือเล็กไว้แน่น มองใบหน้าหวานที่ทำหน้าสงสัย

      “จำไว้นะจองซู ฉันไม่ชอบให้นายเดินตามฉัน ถ้านายทำแบบนั้นอีกฉันจะโกรธ นายต้องเดินข้างๆฉันแบบนี้”

      “ฮีชอลจะไม่รำคาญหรอ?”

      “ไม่เลย ถ้านายเดินข้างๆฉัน ฉันจะได้เห็นนายชัดๆไม่ต้องคอยหันกลับหลังบ่อยๆไง แล้วก็จับมือไว้แบบนี้ไม่ต้องกลัวว่านายจะหลงด้วย” รอยยิ้มบางๆถูกส่งให้ร่างบางที่มองเขาไม่ละสายตา “แล้วก็...ถ้านายจะร้องไห้ ฉันไม่รำคาญหรอกนะ ถ้านายร้องไห้อีกฉันจะกอดนายไว้เหมือนตอนนั้นดีไหม?”

      “อืม...”

      “จะไม่พูดอะไรกับฉันหน่อยเลยรึไง นอกจากขานรับเนี่ย”

      “ฉะ ฉัน...ฉันรักฮีชอลนะ” เสียงหวานเอ่ยตะกุกตะกัก

      “รู้แล้ว...คำนี้ฉันก็ไม่รังเกียจ

      “จริงหรอ! ฮีชอลไม่รังเกียขแล้วจริงๆหรอ?”

      “ห้ามพูดคำนี้กับคนอื่นเด็ดขาด พูดได้กับฉันคนเดียวเท่านั้น รักฉันได้แค่คนเดียว นี่เป็นคำสั่ง...ไม่สิ! นี่เป็นคำขอ ทำได้ไหมจองซู”

      “ดะ ได้ ฉันจะรักฮีชอลคนเดียว” ดวงหน้าหวานก้มหน้างุดอย่างเขินอาย ฮีชอลมองกิริยาท่าทางแบบนั้นอย่างขำๆ ไม่ได้เห็นจองซูเขอนแบบนี้บ่อยนัก มันน่าแกล้งเสียจริง

      ฮีชอลก้มลงจุ๊บปากบางเบาๆอย่างนึกแกล้ง อยากเห็นกิริยาของจองซูว่าจะเป็นยังไง แล้วก็ตามคาดหน้าหวานแดงเป็นลูกมะเขือเทศเลย

      “ไปกันเถอะ เดี๋ยวสายนะ” จองซูเดินตามแรงจูงของฮีชอล ตาสวยก้มมองมือหนาที่กุมมือเขาไม่ปล่อย ปากบางระบายยิ้มกับคำพูดที่ฮีชอลเอ่ยก่อนหน้าที่ยังได้ยินอยู่ในโสตประสาท

       

      ฮีชอลให้จองซูเดินข้างๆ ไม่ต้องมองแค่แผ่นหลังนั้นอีกแล้ว มือของฮีชอลอุ่นมากเหลือเกิน ถ้าจองซูร้องไห้เพราะดีใจ ฮีชอลจะโกรธไหม?

      จองซูได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองด้วย มันดังมากเลย ฮีชอลได้ยินรึเปล่า?

      ฮีชอลจะรักจองซูได้ไหม รักแบบที่จองซูรักฮีชอลจะได้รึเปล่า?

       

      “ขอบคุณนะ ฮีชอล”

       

       

       

       END.........

       

       

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×